Subscription Licensing ใหม่ของ Meraki มีข้อดีอะไรบ้าง

บทความนี้จะขอพูดถึง License ใหม่ที่พึ่งมีประกาศออกจากทาง Meraki โดยจะเน้นที่ลูกค้าที่ใช้งาน Router, Switch และ Access Point ของ Meraki เป็นหลัก

Subscription Licensing ก่อนหน้านี้ Meraki จะมี License 2 ประเภทได้แก่

ซึ่งหลังจากนี้ ทาง Meraki จะ ยกเลิก License ประเภท Per-Device Licensing (PDL)

จะเหลือเพียง Co-Termination Licensing (Co-Term) , Subscription Licensing

และ License แบบไหนเหมาะกับใคร บทความนี้จะมาสรุปให้ฟังง่ายๆครับ

ก่อนอื่นมาดูว่า Subscription Licensing มีข้อดีอะไรบ้าง

2. สามารถบริหารจัดการวันสิ้นสุดของสัญญาให้เป็นวันเดียวกันได้ง่าย

3. ในหนึ่ง Org ID สามารถมี License ได้หลายรูปแบบ

4. เพิ่มจำนวน License , Upgrade License รวมถึงขยายวันสิ้นสุด ของสัญญาได้ง่าย

และลูกค้าควรเลือกใช้ License Co-Termination Licensing (Co-Term) หรือ Subscription Licensing โดยพิจารณาตามเงื่อนไขดังนี้

กรณีใช้งาน Router Meraki (MX) เป็นหลักและมี Access Point (MR) จำนวนไม่เยอะ
- แนะนำให้เลือกใช้ License แบบ Co-Term (ระบบเดิม)
- เหตุผล: ประหยัดกว่า เนื่องจาก License แบบ Subscription ของ MX จะมีราคาสูงขึ้น
กรณีใช้งานอุปกรณ์ผสม (Switch MS, Router MX, Access Point MR)
- แนะนำเปลี่ยนมาใช้ License แบบ Subscription เพื่อการจัดการที่ง่ายขึ้น
- จุดสังเกตุ: ค่า License ของ MX ต้องคำนวณอย่างละเอียด เพราะอาจทำให้ต้นทุนรวมสูงขึ้น
กรณีใช้งานแบบ Per Device License และไม่ต้องการเปลี่ยนไปใช้ Subscription
- หาก License หมดอายุไม่พร้อมกัน
- ข้อแนะนำ: เปลี่ยนมาใช้ Co-Term License จะช่วยให้การต่ออายุ License ง่ายขึ้น